Pages

Friday, June 19, 2020

"ชวลิต" ร่ายยาว ปฏิเสธ ไม่เคยขอ "นิรโทษกรรมเหมาเข่ง"- "รบ.แห่งชาติ" - ไทยรัฐ

ikanghus.blogspot.com

ชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เชื่อ ไม่มีผู้นำประเทศคนไหน ไม่อยากเห็นบ้านเมืองตัวเองสงบสุข ร่ายยาว ปฏิเสธไม่เคยขอ "นิรโทษกรรมเหมาเข่ง" และ "รัฐบาลแห่งชาติ" ท้า ไปพิสูจน์สิ่งที่ผมเขียนในเฟซบุ๊กได้ ดังนั้น ขออย่าบิดเบือน 

วันที่ 20 มิ.ย. นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ช่วงเดินทางกลับพื้นที่นครพนม ชาวบ้านเชียร์แนวคิดการสร้างความปรองดองของคนในชาติเพียบ ไปทางไหนก็มีแต่คนสนับสนุน ผมเชื่อโดยสุจริตใจว่า ไม่มีผู้นำประเทศคนไหน ไม่อยากเห็นบ้านเมืองของตนเองสงบสุข เลิกแบ่งฝัก แบ่งฝ่าย แต่ก็ไม่ใช่เออออห่อหมก ร่วมมือกันกินบ้าน กินเมือง ยังต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ ถ่วงดุลซึ่งกันและกันตามระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม ก็คงต้องทำความเข้าใจกับนักวิชาการบางท่าน ที่เห็นว่า ผมได้เรียกร้องให้รัฐบาล นิรโทษกรรมแบบ "เหมาเข่ง" และเรียกร้องให้มี "รัฐบาลแห่งชาติ" นั้น เป็นการกล่าวเกินเลยความจริงไปมาก จึงขอปฏิเสธมา ณ ที่นี้

"เหมาเข่ง" เป็นวาทกรรมที่บิดเบือน ไม่เป็นความจริงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะไม่มีประเทศไหนในโลกที่จะนิรโทษกรรมคดีทุจริต มีแต่นิรโทษกรรมคดีการเมือง และคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องการเมือง ในข้อเท็จจริง ผมเขียนบทความลง Facebook สองวันติดกัน ในวันที่ 18 และ 19 มิ.ย.63 เรียกร้องให้รัฐบาลสร้างความปรองดองของคนในชาติ ด้วยการนิรโทษกรรมผู้ต้องคดีการเมือง และคดีอาญาเกี่ยวเนื่องการเมือง ยกเว้นคดีทุจริต ที่กระบวนการกล่าวหา ต้องยืนอยู่บนหลักนิติธรรม ไม่มีส่วนไหนเลยที่ขอนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง และไม่มีข้อความใดเลย ที่ขอให้มีรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่ง Facebook  ของผมทั้งสองวันดังกล่าวก็ยังอยู่ ไม่ได้ลบบทความแต่อย่างใด สามารถตรวจสอบได้" ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ยืนยัน 

นายชวลิต กล่าวต่อว่า ผมเป็น ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย จึงไม่อาจไปเรียกร้องให้มีรัฐบาลแห่งชาติได้ ส่วนการนิรโทษกรรม ผู้ต้องคดีการเมือง และคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องการเมือง ยกเว้นคดีทุจริต ที่ผมเสนอความเห็นไว้นั้น ไม่ใช่การนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งแน่นอน ไม่มีประเทศใดในโลกจะนิรโทษกรรมคดีทุจริตได้ ขอเรียนว่า ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการสร้างความปรองดองของคนในชาติ ผู้บริหารของประเทศนั้น ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ละอคติส่วนตน มองประโยชน์ความสามัคคีของคนในชาติเป็นสำคัญ

ส่วนการนิรโทษกรรมคดีการเมือง และคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องการเมือง หลักคิดก็คือ ความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันไม่ใช่อาชญากรรมร้ายแรงที่จะอภัยกันไม่ได้ ยกตัวอย่าง ในอดีตมีประชาชนที่มีความเห็นต่างทางอุดมการณ์ทางการเมืองจนถึงขั้นจับอาวุธรบราฆ่าฟันกันนานนับสิบปี มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก สุดท้ายสงครามกลางเมืองยุติลงได้ด้วยการให้อภัยต่อกัน รัฐบาลในขณะนั้นที่มี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 66/23 เรื่อง นโยบายการเมืองนำการทหาร ส่งผลให้เกิดผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย บ้านเมืองก็กลับมาสู่ความสงบสุข

"ดังนั้น ณ สถานการณ์ปัจจุบัน หากผู้นำประเทศเข้าใจหลักคิดการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมืองที่หมักหมมมากว่า 10 ปี แล้วตัดสินใจให้อภัยต่อกัน ผมมั่นใจว่า ก็จะเกิดความปรองดองขึ้นในบ้านเมือง ซึ่งจะส่งผลให้ทุกภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมมือกันแก้ไขวิกฤติของชาติที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

ผมเชื่อว่า ไม่มีผู้นำประเทศคนไหนไม่อยากเห็นบ้านเมืองของตนเองสงบสุข ถึงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้วที่จะสร้างความปรองดองของคนในชาติ ดังที่ผมเคยกล่าวไว้ว่า มะม่วงสุกแล้ว หวานกำลังดี ไม่อ่อนจนเปรี้ยว แต่ถ้าปล่อยให้เนิ่นนาน ก็จะเน่า" นายชวลิต กล่าว...

อ่านเพิ่มเติม...

Let's block ads! (Why?)



"ซึ่งกันและกัน" - Google News
June 20, 2020 at 01:25PM
https://ift.tt/3hIAcpb

"ชวลิต" ร่ายยาว ปฏิเสธ ไม่เคยขอ "นิรโทษกรรมเหมาเข่ง"- "รบ.แห่งชาติ" - ไทยรัฐ
"ซึ่งกันและกัน" - Google News
https://ift.tt/2XRydWC

No comments:

Post a Comment