รู้จักประเมินซึ่งกันและกันเป็นหลักการที่สองสามีภรรยา “แจ็ค-จักรพันธ์ ธรรมวิเศษศรี” กับ “นุ๊ก-อัจฉรา อลงกรณ์โสภิต” เจ้าของ “ดูบัว คาเฟ่” อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นำมาใช้ในการครองชีวิตคู่ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา โดยแจ็คย้อนเล่าสมัยรู้จักกันใหม่ ๆ ว่า เดิมนุ๊กเป็นคนเชียงใหม่และมาเป็นพนักงานบัญชีให้กับบริษัทนำเข้าของเด็กเล่นสำหรับเด็กอ่อนของพี่สาวแจ็ค ส่วนตัวเองเป็นคนกรุงเทพฯ ตอนนั้นยังทำโรงงานของเด็กเล่น และเที่ยวไปมาหาสู่พี่สาวบ้างเป็นบางคราวทำให้ได้เจอกับนุ๊ก และรู้สึกประทับใจในความสวยของนุ๊กตั้งแต่แรกเห็น ส่วนนุ๊ก บอกว่า ประทับใจแจ็คที่ดูเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งตอนนั้นแจ็คอายุ 32 ปี ส่วนตัวเองเพิ่งอายุ 22 ปีเท่านั้น
ต่างคนต่างประทับใจตั้งแต่แรกเห็นจึงใช้เวลาในการสานสัมพันธ์ไม่นานก่อนคบกัน นุ๊กเป็นฝ่ายเล่าว่าต่างคนต่างจีบกันประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้น 2-3 สัปดาห์ต่อมาจึงเริ่มออกไปเที่ยวด้วยกันบ้างเพื่อทำความรู้จักกันมากขึ้น ขณะที่แจ็ค เล่าเสริมว่า ส่วนตัวค่อนข้างเป็นคนขี้อาย ถ้าจีบใครแล้วรู้สึกว่าเขาเล่นตัวก็จะไม่จีบต่อเพราะกลัวเสียหน้า “เขาทอดสะพาน เราต้องทอดกลับ”
ก่อนเล่าต่อไปว่าต่อมาจึงชวนมานุ๊กมาทำงานที่บริษัทของตัวเอง หลังจากนั้นก็อยู่ด้วยกันมาเรื่อย ๆ นับเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ตั้งแต่ทำโรงงานของเด็กเล่น จนตัวเองเปลี่ยนมาธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ย่านบางเลน โดยมีนุ๊กคอยช่วยงานด้านบัญชีและการเงิน โชคดีที่มาที่ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เพราะประสบความสำเร็จอย่างมากในเวลาอันรวดเร็ว ตลอด 15 ปีที่ผ่านมามีโครงการมากกว่า 17 โครงการ จึงตัดสินใจเปิด “ดูบัว คาเฟ่” (Dubua) ซึ่งเดิมจะเป็นโครงการที่ 18 ของอริยแลนด์ แต่ด้วยความที่ตัวเองมีความฝันว่าอยากเกษียณเร็ว คำว่าเกษียณในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าไม่ทำงาน แต่เป็นการที่ตัวเองสามารถเลือกอาชีพที่อยากทำได้ เรียกว่า “ชิล ๆ แต่ต้องได้เงิน” เลยตัดสินใจเนรมิตดูบัว คาเฟ่ ที่มีพื้นที่กว่า 54 ไร่ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่นำเสนอความเป็นท้องถิ่นแต่ไม่น่าเบื่อ
“การที่ตัวเองตัดสินใจไม่อยากทำโรงงานและมาเปิดดูบัว คาเฟ่ เกิดมาจากการได้ใช้ชีวิตร่วมกับนุ๊ก และมองว่าด้วยนิสัยเราทั้ง 2 คนไม่เหมาะกับการทำธุรกิจไปตลอด การประสบความสำเร็จในธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นความโชคดี และรู้จักปล่อยวางบ้างทำให้ไม่เสียช่างดี ๆ และไม่มีปัญหาที่ต้องผิดใจกับลูกค้า การทำธุรกิจที่ผ่านมาจึงค่อนข้างมีปัญหาน้อย ซึ่งกับนุ๊กเรียกว่าแค่มองตาก็รู้ใจ แทบไม่ต้องพูดหรือปรึกษาอะไร” แจ๊คกล่าว
ถ้าเทียบกับชีวิตคู่ของคนอื่น ชีวิตคู่ของแจ็คและนุ๊กค่อนข้างเรียบง่าย ไม่เคยมีเซอร์ไพร้ส์ ไม่โรแมนติก แต่กลับไม่ได้เป็นปัญหาหรืออุปสรรค เพราะอยู่ด้วยกันเหมือนครอบครัวและเพื่อน ที่สำคัญทั้งคู่เผยว่าแม้ตัวติดกันตลอด และไม่เคยห่างกันเกิน 1 วัน แต่ไม่เคยทะเลาะหรือรู้สึกเบื่อกันเลย
“เคยคุยกับนุ๊กเหมือนกันว่าแปลกดีที่เราไม่เคยทะเลาะกันเลยไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ อาจเพราะนิสัยค่อนข้างเหมือนกันคือเป็นคนอารมณ์ดี ใจเย็น อดทนอดกลั้นทั้งคู่ นอกจากนี้ต่างคนต่างระมัดระวังความรู้สึกฝ่ายตรงข้าม มีการประเมินกันตลอดเวลา ระวังตัวและระวังอารมณ์ตัวเอง” แจ็คเล่า
ส่วนการเลี้ยงลูก 2 คน “ผักหวาน” และ “ทาโร่” ทั้งสองคนมีบทบาทในการอบรมดูแลเท่ากัน ๆ แจ็ค เล่าว่าสมัยที่ลูกยังเป็นลูกเล็ก ตัวเองมีความสุขกับการตื่นตีสองตีสามขึ้นมาดูลูก แม้ว่าเหนื่อยแต่มีความสุข เพราะมองว่าตัวเองมีเวลาแค่ 3 ปีในการทำแบบนี้ให้ลูก พอเกิน 3 ปีไปแล้วลูกก็ไม่ต้องการให้ทำแบบนี้ให้แล้ว เหมือนได้ทำเพื่อตัวเองด้วย ดังนั้นตัวเองจึงมีส่วนในการเลี้ยงลูกตอนที่ยังเป็นลูกเล็กมากหน่อย แต่จริง ๆ แล้วทั้งตัวเองและนุ๊กต่างช่วยกันเลี้ยงและดูอบรมสั่งสอนลูกเท่า ๆ กัน ไม่ได้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งหลักในการเลี้ยงลูกเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งครอบครัวคือจะไม่บังคับในเรื่องเรียน ให้เขาเข้าใจ และสนุกกับการเรียนในสิ่งที่ตัวเองอยากเรียนมากกว่า
เมื่อถามถึงความประทับใจที่มีต่อกัน นุ๊กตอบสั้น ๆ ว่า “ประทับใจทุกอย่างตั้งแต่รู้จักกันมา” เช่นเดียวกับ แจ็ค ที่เผยว่า ประทับใจทุกวัน ไม่มีวันไหนที่ประทับใจเป็นพิเศษ นุ๊กทำให้รู้สึกเหมือนอยู่กับครอบครัว เหมือนเป็นน้องสาวคนหนึ่งที่ผูกพันกันมาและไม่ได้มีอะไรหวือหวา ไม่ได้รู้สึกมีช่องว่างระหว่างวัย และคิดตรงกันตั้งแต่วันแรก แม้แต่รสนิยม ความชอบ วิธีคิด วิธีประเมิน เป็นคนระวังตัว ระวังความคิดเหมือนกัน ไม่มีวันไหนที่เรารู้สึกเซอร์ไพร้ส์หรือรู้สึกแย่ แค่รู้สึกเหมือนวันแรกที่เจอ เหมือนเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
สำหรับการดูแลกันแจ็คบอกว่า ตอนนี้ต่างคนต่างเริ่มมีอายุ ซึ่งมีคำกล่าวบอกไว้ว่าเมื่ออายุมากขึ้น เหตุผลจะน้อยลง ดังนั้นจึงมักเตือนกันเรื่องนี้ เพื่อที่จะไม่ไปปะทะอารมณ์กับใคร นอกจากนี้ยังเป็นห่วงนุ๊กในเรื่องสุขภาพเพราะไม่ค่อยออกกำลังกาย และไม่ระวังเรื่องการกิน ส่วนนุ๊กเป็นห่วงเรื่องโรคประจำตัวของแจ็คอย่างภูมิแพ้ และกรดไหลย้อน
ก่อนปิดท้ายด้วยหลักในการใช้ชีวิตร่วมกันว่า “เราประเมินกันทั้งประเมินตัวเองและอีกฝ่าย ทำให้ไม่มีเรื่องกระทบกระทั่งกัน เป็นหลักพื้นฐานที่นำมาใช้ไม่ว่ากับคู่ชีวิต หรือการทำธุรกิจ และการดูแลพนักงาน”
“ต้นรัก”
กันและกัน
"ซึ่งกันและกัน" - Google News
September 05, 2020 at 03:07PM
https://ift.tt/3i3WSjl
'รู้จักประเมินกัน' หลักใช้ชีวิตคู่ 20 ปีไม่มีทะเลาะ 'แจ็ค-นุ๊ก' แห่ง 'ดูบัว คาเฟ่' - เดลีนีวส์
"ซึ่งกันและกัน" - Google News
https://ift.tt/2XRydWC
No comments:
Post a Comment