วันอาทิตย์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 17.25 น.
"จตุพร"เตือนทั้งฝ่ายรัฐและเยาวชนใช้ความอดทนต่อกันและกันให้ถึงที่สุด ย้ำต้องยึดกุมข้อเรียกร้องทั้ง3ข้อ พร้อมขีดเส้นใต้ไม่ก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ เชื่อนักศึกษาคือพลังบริสุทธิ์ ฝ่ายการเมืองไม่ควรเข้าไปยุ่ง
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2563 ที่สถานีโทรทัศน์พีซทีวี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการชุมนุมของนักศึกษา เยาวชนปลดแอก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวานนี้ (18 ก.ค.) ว่า สิ่งจำเป็นจะต้องทำทั้ง 2 ฝ่าย คือ การแข่งความอดทนซึ่งกันและกัน ตนผ่านเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 ในขณะนั้นเป็นคนหนุ่มสาวเหมือนกับคนเหล่านี้ จึงรู้ว่าคนหนุ่มสาวเป็นพลังบริสุทธิ์ มีความฝันมีความหวัง ดังนั้นการต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองจึงเป็นหน้าที่ และประเทศใด คนหนุ่มสาวไม่กล้าที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้ ประเทศนั้นหามีอนาคตไม่
การต่อสู้การแสดงออกของคนหนุ่มสาวของประเทศที่มีอนาคต ผู้มีอำนาจต้องมองด้วยภาวะการณ์ปกติ เพราะหากมองว่าเป็นภัยคุกคามที่จะต้องกำจัดนั้น สุดท้ายแล้วเหตุการณ์จะลุกลามบานปลาย ประชาชนซึ่งเป็นพ่อแม่ของนักศึกษาทนไม่ได้ก็จะออกมา ขณะเดียวกันการชุมนุมก็ต้องเตรียมความพร้อมให้ครบถ้วนทั้งอุปกรณ์เครื่องเสียง และระบบการจัดการ์ดรักษาความปลอดภัยในการปกป้องและลดความสูญเสียในการชุมนุม เพราะปรากฏการณ์ที่เกิดการกรูเข้าไปนั้นสามารถทำให้เกิดเหตุการณ์ได้ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายผู้ปกครองจะต้องใจกว้าง จะต้องมีความอดทนให้ถึงที่สุด ขณะเดียวกันข้อเรียกร้องของบรรดาคนหนุ่มสาว 3 ข้อนั้น ก็ต้องยึดกุมให้แข็งแรงและที่สำคัญต้องไม่ไปก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะจะทำให้เป็นจุดอ่อนโดยฉับพลัน
"ทั้ง 3 ข้อเรียกร้องนั้น เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญทั้งการเรียกร้องให้ยุบสภา การเรียกร้องไม่ให้มีการคุกคามบุคคลที่มีความเห็นต่างและเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากขีดเส้นใต้ไว้ 3 ข้อนี้ เชื่อว่าสถานการณ์จะสามารถเดินได้ตามปกติ บทเรียนการชุมนุมแต่ละครั้ง ซึ่งไม่ได้บอกว่าคนรุ่นไหนจะเก่งกว่าคุณรุ่นไหน ดังนั้นปรากฏการณ์เมื่อวานนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นอีกครั้ง"
นายจตุพร กล่าวว่า ในภาวะการของประเทศที่คนไร้ทางออก รัฐต้องยอมรับความเป็นจริงว่าคนไทยอยู่ท่ามกลางความยากลำบาก การเยียวยาไม่ครบถ้วน อีกทั้งการเยียวยาเท่านั้นไม่สามารถดำรงชีพได้ตลอดไป เหล่านี้ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ความเดือดร้อนดังกล่าวนั้น คนจะไหลไปรวมกับนักศึกษาโดยอัตโนมัติ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดและใจกว้าง ต้องไม่คิดในการที่จะล้อมปราบเพราะจะทำให้สถานการณ์ของประเทศยุ่งยากมากยิ่งขึ้น
ส่วนตัวเห็นด้วยกับการยุติการชุมนุมตอนเที่ยงคืน เพราะการชุมนุมข้ามคืนหากไม่พร้อมก็อย่าทำ ให้รักษาระดับความสำเร็จเอาไว้ และหากไม่พร้อมก็ต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ นี่จึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด เพราะคนที่มาร่วมชุมนุมไม่ได้เตรียมตัว คนจัดก็ไม่ได้เตรียมตัว และสถานที่ทุกอย่างก็ขาดความพร้อมทั้งหมดในการชุมนุมยืดเยื้อได้ในทางปฎิบัติ รวมถึงจุดดูแลการรักษาความปลอดภัยก็ไม่ได้มีการเตรียมการ ดังนั้นในสถานการณ์ที่มีความเปราะบางทุกฝ่ายจะต้องใช้ความอดทนกันอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ หากมองด้วยมุมปรากฏการณ์ว่าความแข็งแรงของกระบวนการนักศึกษานั้นคือความเป็นอิสระ ซึ่งตนห้ามแกนนำ นปช.อย่าเข้าไปใกล้ เพราะเราเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องทางการเมือง ดังนั้น หากเข้าไปใกล้เมื่อไหร่จะเป็นเหตุ ให้การต่อสู้ของนิสิตนักศึกษา มีสภาพที่ไม่แข็งแรง เพราะพลังบริสุทธิ์จะเป็นภูมิต้านทานที่ดีที่สุด ส่วนบรรดานักการเมืองพรรคการเมืองจะต้องเว้นระยะห่างจากพลังบริสุทธิ์เหล่านี้
พร้อมย้ำว่า การต่อสู้ทางการเมืองต่อไปนี้ไม่ควรจะมีการบาดเจ็บล้มตายหรือต้องสูญสิ้นอิสรภาพ และเห็นว่าการต่อสู้ของประชาชนนิสิตนักศึกษานั้นเป็นหน้าที่ปกติของคนที่เกิดภายในประเทศนี้
"ซึ่งกันและกัน" - Google News
July 19, 2020 at 05:25PM
https://ift.tt/3fIGhAD
การเมือง - 'จตุพร'เชื่อนักศึกษาคือพลังบริสุทธิ์ แนะกลุ่มการเมืองอย่ายุ่งชักใย - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"ซึ่งกันและกัน" - Google News
https://ift.tt/2XRydWC
No comments:
Post a Comment